ถอดคำประพันธ์บทละครเรื่องอิเหนา - นิยาย ถอดคำประพันธ์บทละครเรื่องอิเหนา : Dek-D.com - Writer
×

    ถอดคำประพันธ์บทละครเรื่องอิเหนา

    ถอดคำประพันธ์บทละครเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

    ผู้เข้าชมรวม

    14,818

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    415

    ผู้เข้าชมรวม


    14.81K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    16
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  3 ก.พ. 62 / 16:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    * เราไม่ได้แปลเองนะคะ เอามาจากในเน็ตนี่แหละค่ะ แต่เอามารวบรวมใหม่ เผื่อคนไหนประสบปัญหาตอนทำการบ้านเหมือนเราก็เอาไปใช้ได้นะคะ

    เนื้อเรื่องย่อ ก่อนศึกกะหมังกุหนิง
         
         ดินแดนชวาโบราณ มีกษัตริย์วงศ์หนึ่งเรียกว่า วงศ์อสัญแดหว หรือ วงศ์เทวา กล่าวกันว่า วงศ์นี้มีพี่น้องสี่องค์ องศ์พี่ครองเมืองกุเรปัน องค์ที่สองครองเมืองดาหา องค์ที่สามครองเมืองกาหลัง และองศ์ที่สี่ครองเมืองสิงหัดส่าหรี กษัตริย์วงเทวามีอานุภาพยิ่งใหญ่ด้วยยศศักดิ์ ถือตัวว่าเป็นชนชั้นสูง จึงอภิเษกกันเฉพาะในวงศ์พี่น้อง นอกจากนี้ทั้งสี่เมืองเท่านั้นที่สามารถแต่งตั้งมเหสีได้ ๕ องค์ ตามลำดับตำแหน่ง คือ ประไหมสุหรี มะเดหวี มะโต ลิกู และเหมาหลาหงี แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเมืองหมันหยาซึ่งเป็นเมืองเล็กกว่า กล่าวคือ เจ้าเมืองนี้มีราชธิดา ๓ องค์ องค์โตชื่อ นิหลาอระตา ได้ไปเป็นประไหมสุหรีเมืองกุเรปัน องค์ที่สองชื่อ ดาหราวาตี ได้ไปเป็นประไหมสุหรีเมืองดาหา ส่วนองค์สุดท้องชื่อ จินดาส่าหรี ได้อภิเษกกับโอรสท้าวมังกัน และได้ครองเมืองหมันหยา
         
         ท้าวกุเรปันมีโอรสองค์แรกกับลิกู ชื่อว่า กะหรัดตะปาตี ต่อมามีพระโอรสกับประไหมสุหรี เป็นหนุ่มรูปงามและเก่งกล้าสามารถ ชื่อ อิเหนา หรือ ระเด่นมนตรี และมีพระธิดาชื่อ วิยะดา ส่วนท้าวดาหามีพระธิดากับประไหมสุหรีชื่อ บุษบา และมีพระโอรสชื่อ สียะตา บุษบามีอายุไล่เลี่ยกับอิเหนา ท้าวกุเรปันจึงหมั้นบุษบาให้กับอิเหนา และสียะตาก็หมั้นหมายกันไว้กับวิยะดา

         ส่วนระตูหมันหยากับประไหมสุหรีก็มีราชธิดาชื่อ ระเด่นจินตะหรา อายุรุ่นราวคราวเดียวกับอิเหนา ท้าวสิงหัดส่าหรีกับประไหมสุหรีมีโอรสชื่อ ระเด่นสุหรานากง ราชธิดาชื่อ ระเด่นจินดาส่าหรี ท้าวกาหลังมีราชธิดาชื่อ ระเด่นสะการะหนึ่งหรัด ซึ่งเป็นคู่ตุนาหงันของสุหรานากง

         เมื่อพระอัยยิกาที่เมืองหมันหยาสิ้นพระชนม์ ท้าวกุเรปันมอบหมายให้อิเหนาไปร่วมพิธีถวายพระเพลิงพร้อมกับกะหรัดตะปาตี อิเหนาพบจินตะหราก็หลงรัก จนพิธีถวายพระเพลิงเสร็จแล้วก็ยังไม่ยอมกลับเมืองกุเรปัน ท้าวกุเรปันจึงต้องอ้างว่าประไหมสุหรีจะมีพระประสูติกาลให้กลับมาเป็นกำลังใจให้พระราชมารดา อิเหนาจำใจต้องกลับมาประจวบกับพระราชมารดาประสูติพระราชธิดาหน้าตาน่ารักนามว่า ระเด่นวิยะดา

         อย่างไรก็ตาม อิเหนายังหาทางกลับไปเมืองหมันหยาอีก โดยอ้างว่าจะไปประพาสป่า แล้วปลอมตัวเป็นโจรป่าชื่อ มิสารปันหยี ระหว่างทางได้รบกับ ระตูบุศสิหนา น้องชายสุดท้องของ ระตูปันจะรากัน และ ระตูปักมาหงัน ปรากฏว่าระตูบุศสิหนาตายในที่รบ นางดรสา ซึ่งเพิ่งเข้าพิธีอภิเษกกับระตูบุศสิหนาจึงกระโดดเข้ากองไฟตายตามพระสวามี ส่วนระตูปันจะรากันและระตูปักมาหงันยอมแพ้ และถวายพระราชธิดาและพระโอรสให้อิเหนา คือ นางสการะวาตี นางมาหยารัศมี และสังคามาระตา เมื่ออิเหนาเข้าเมืองหมันหยาได้ ก็ลักลอบเข้าหานางจินตะหรา แล้วได้สองนางคือ นางสการะวาตและนางมาหยารัศมีเป็นชายา และรับสังคามาระตาเป็นน้องชาย

         ท้าวกุเรปันเรียกอเหนากลับเมืองถึงสองครั้ง พร้อมทั้งนัดวันอภิเษกระหว่างอิเหนากับบุษบา แต่อิเหนาไม่ยอมกลับมาและสั่งความตัดรอนนางบุษบา ท้าวกุเรปันและท้าวดาหาทราบเรื่องก็ขัดเคืองพระทัย ท้าวดาหาถึงกับหลุดปากว่าถ้าใครมาขอบุษบาก็จะยกให้

         ฝ่าย จรกา ระตูเมืองเล็กเมืองหนึ่ง และเป็นอนุชาของ ท้าวล่าสำ (ท้าวล่าสำผู้นี้มีธิดา คือ ระเด่นกุสุมา เป็นคู่หมั้นของสังคามาระตา) จรกาเป็นชายรูปชั่วตัวดำ แต่อยากได้ชายารูปงาม จึงให้ช่างวาดไปแอบวาดภาพราชธิดาของกษัตริย์เมืองสิงหัดส่าหรี คือ นางจินดาส่าหรี ครั้นทราบข่าวว่านางบุษบาสวยงามมากจึงให้ช่างวาดแอบวาดภาพนางบุษบาอีก ช่างวาดแอบวาดได้ ๒ ภาพ คือ ตอนนางบุษบาเพิ่งตื่นบรรทมและภาพที่แต่งองค์เต็มที่ ขณะเดินทางกลับ องศ์ประตาระกาหลาบันดาลให้รูปนางบุษบาที่ทรงเครื่องหายไป จรกาได้เห็นภาพที่เพิ่งตื่นบรรทมเท่านั้นก็หลงใหล ถึงกับสลบไปทันที เมื่อได้ข่าวจากช่างวาดภาพว่าบุษบาร้างคู่ตุนาหงัน จึงรีบให้ท้าวล่าสำ ซึ่งเป็นพี่ชายมาสู่ขอบุษบา ท้าวดาหากำลังโกรธอิเหนาอยู่ แม้จะรู้ว่าจรการูปชั่วต่ำศักดิ์ แต่เมื่อพลั้งปากว่าใครมาขอก็จะยกให้ จึงจำใจยกนางบุษบาให้จรกาและกำหนดการวิวาห์ภายใน ๓ เดือน

         กล่าวถึงกษัตริย์อีกวงศ์หนึ่ง องศ์พี่ครองเมืองกะหมังกุหนิง มีพระโอรสชื่อ วิหยาสะกำ องค์รองครองเมืองปาหยัง มีพระธิดา ๒ องค์ คือ นางรัตนาระติกา และ รัตนาวาตี องค์สุดท้องครองเมืองปาหมันสลัด มีพระโอรสชื่อ วิหรากะระตา มีพระธิดาชื่อ บุษบาวิลิศ

         อยู่มาวิหยาสะกำโอรสท้าวกะหมังกุหนิงเสด็จประพาสป่า พบภาพวาดของนางบุษบาทรงเครื่องที่หายไปก็คลั่งไคล้ใหลหลงถึงกับสลบเช่นกัน ท้าวกะหมังกุหนิงรักและเห็นใจโอรสมาก จึงให้คนไปสืบว่านางในภาพนั้นเป็นใครแล้วก็ให้แต่งตั้งทูตไปขอนางบุษบา แต่ถูกท้าวดาหาปฏิเสธ เพราะได้ยกให้ระตูจรกาไปก่อนหน้านั้นแล้ว จึงทำให้เกิดศึกชิงนางขึ้น ชื่อว่า ศึกกะหมังกุหนิง



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น